คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับการเซ็นสัญญาเช่าหอ: สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเซ็น

คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับการเซ็นสัญญาเช่าหอ: สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเซ็น

การเซ็นสัญญาเช่าหอเป็นขั้นตอนสำคัญในการเช่าห้องและเข้าพัก ไม่ว่าผู้เข้าพักจะเลือกหอพัก ราคาถูกหรือห้องพักรายเดือน การเข้าใจรายละเอียดในสัญญาเช่าก็ยังคงเป็นสิ่งที่ขาด 

ในบทความนี้ Hongpak จะมาแนะนำทุกสิ่งที่ผู้เข้าพักต้องควรรู้เกี่ยวกับสัญญาเช่าห้องพักตั้งแต่การตรวจสอบสัญญา การเข้าใจเงื่อนไข ไปจนถึงคำแนะนำเพื่อการเจรจาสัญญาต่างๆ ความแตกต่างระหว่างการทำสัญญาเช่าหอพักและสัญญาเช่าคอนโด ใครที่กำลังมองหาหอพักดีๆ อยู่ ต้องรู้รายละเอียดเหล่านี้เลย!

สัญญาเช่าหอคืออะไร?

สัญญาเช่าหอพักเป็นเอกสารทางกฎหมายที่ระบุข้อตกลงระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย ข้อมูลสำคัญที่ควรรวมอยู่ในสัญญา ได้แก่

  • ค่าเช่า: รายละเอียดเกี่ยวกับค่าเช่าและวิธีการชำระ
  • ระยะเวลาการเช่า: เช่น รายเดือน รายปี หรือระยะเวลาที่กำหนด
  • เงื่อนไขการยกเลิกสัญญา: เช่น การแจ้งล่วงหน้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
  • กฎการเช่าห้องพัก: เช่น ห้ามเลี้ยงสัตว์ การใช้งานพื้นที่ส่วนรวม

ประเภทของสัญญาเช่าที่พบบ่อย

1. สัญญาห้องเช่า ระยะสั้น: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักอาศัยในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น รายเดือนหรือรายเทอม

2. สัญญาเช่าห้องพัก ระยะยาว: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเช่าแบบถาวร เช่น รายปีหรือมากกว่า

ความแตกต่างระหว่างสัญญาเช่าหอพักกับสัญญาเช่าคอนโด

สัญญาเช่าหอพัก และ สัญญาเช่าคอนโด เป็นเอกสารที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการระบุข้อตกลงระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่า แต่ลักษณะของที่พักและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทำให้มีความแตกต่างที่สำคัญ ดังนี้:

1. ลักษณะของสัญญา

  • หอพัก: สัญญาระยะสั้น (รายเดือน/รายเทอม) เน้นความเรียบง่าย เหมาะสำหรับนักศึกษาและคนทำงานชั่วคราว
  • คอนโด: สัญญาระยะยาว (6 เดือน/1 ปีขึ้นไป) มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ

2. ค่าใช้จ่าย

  • หอพัก: ค่าเช่ามักรวมค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าบริการพื้นฐาน
  • คอนโด: ค่าเช่าแยกค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าส่วนกลาง อาจมีค่ามัดจำสูงกว่า

3. เฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวก

  • หอพัก: มักมีเฟอร์นิเจอร์พื้นฐาน เช่น เตียงและโต๊ะมาให้พร้อม
  • คอนโด: มักมีพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด เช่น โซฟา ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้พร้อม แต่ในหลายกรณีก็อาจเป็นห้องเปล่า แตกต่างจากหอพัก

4. กฎระเบียบ

  • หอพัก: มีกฎควบคุมพฤติกรรม เช่น ห้ามเลี้ยงสัตว์ ห้ามเสียงดัง
  • คอนโด: มีกฎจากนิติบุคคล เช่น การใช้งานพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถ

5. ความเหมาะสม

  • หอพัก: เหมาะสำหรับผู้ที่การพักในระยะสั้นหรือยาวในราคาประหยัด อาจมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมแต่อาจไม่มากเท่าคอนโดในหลายที่ต่างๆ
  • คอนโด: เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณ มองหาความเป็นส่วนตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนเซ็นสัญญาเช่าหอ

ก่อนการ “เซ็นสัญญาเช่าหอ” ควรตรวจสอบข้อมูลในสัญญาให้ครบถ้วนเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

1. ข้อมูลส่วนตัว

  • ตรวจสอบว่าข้อมูลของผู้เช่าและผู้ให้เช่าถูกต้อง
  • ชื่อ-นามสกุล ตรงตามบัตรประชาชน
  • ที่อยู่ของ หอพัก หรือ ห้องพัก ที่จะเช่า

2. ค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขการชำระเงิน

  • ค่าเช่าต่อเดือนและวันที่ครบกำหนดชำระ
  • ค่ามัดจำ (Deposit) และเงื่อนไขการคืนเงิน
  • ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าบริการอื่น ๆ

3. กฎการเช่าห้องพัก

แต่ละหอพักหรือห้องเช่า มักมีกฎเฉพาะ เช่น

  • การห้ามเลี้ยงสัตว์
  • การรักษาความสงบในพื้นที่ส่วนรวม
  • เวลาปิด-เปิดประตู

4. การซ่อมแซมและบำรุงรักษา

ระบุให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในกรณีที่มีความเสียหายหรือปัญหา เช่น

  • การซ่อมแซมไฟฟ้าหรือประปา
  • ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานปกติ
คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับการเซ็นสัญญาเช่าหอ: สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเซ็น

เคล็ดลับจาก Hongpak เช็กอย่างไรว่าสัญญาเช่าหอเป็นไปตามกฎหมาย

การตรวจสอบว่าสัญญาเช่าหอพักหรือห้องพักเป็นไปตามกฎหมายใหม่หรือไม่ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการเช่าห้องพักมีความเข้มงวดมากขึ้น 

ต่อไปนี้คือวิธีเช็กว่าสัญญาเช่าของเราถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าใครที่กำลังสับสนหรืออยากรู้อยู่ ต้องดูเลย

1. ตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของสัญญา

ข้อมูลที่ควรระบุในสัญญาเช่า

  • ชื่อ-นามสกุล ของผู้เช่าและผู้ให้เช่า
  • ที่อยู่ของห้องพัก หรือหอพักที่ทำสัญญา
  • รายละเอียดค่าเช่า: เช่น ค่าเช่ารายเดือน วันที่ครบกำหนดชำระ และค่ามัดจำ
  • ระยะเวลาสัญญา: เช่น รายเดือนหรือรายปี

เคล็ดลับ: หากข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ไม่ครบถ้วน ให้ขอปรับแก้หรือปฏิเสธการเซ็น

2. ตรวจสอบเงื่อนไขการคืนค่ามัดจำ

กฎหมายกำหนดให้ผู้ให้เช่าต้องคืนค่ามัดจำให้กับผู้เช่าภายในระยะเวลาที่เหมาะสมหลังสิ้นสุดสัญญา
สิ่งที่ต้องระบุในสัญญา:

  • จำนวนเงินมัดจำ
  • เงื่อนไขในการคืน เช่น ต้องไม่มีความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายค้างชำระ

เคล็ดลับ: ถ่ายรูปห้องก่อนเข้าอยู่และหลังออก เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากมีปัญหาเกี่ยวกับค่ามัดจำ

3. เช็กการกำหนดค่าปรับ

กฎหมายห้ามไม่ให้มีการกำหนดค่าปรับที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น การปรับเงินเกินจริงกรณีคืนกุญแจช้าหรือยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด

สิ่งที่ควรระวัง

  • ค่าปรับควรเป็นไปตามจริงและระบุอย่างชัดเจน
  • หากพบการปรับที่ดูไม่ยุติธรรม ควรเจรจาให้แก้ไขก่อนเซ็น

เคล็ดลับ: ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับสัญญาเช่าเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจขอบเขตการเรียกเก็บค่าปรับ

4. ตรวจสอบสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย

สัญญาที่ถูกต้องต้องระบุหน้าที่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่า เช่น:

  • ผู้ให้เช่าต้องรับผิดชอบค่าซ่อมแซมกรณีความเสียหายจากการใช้งานปกติ
  • ผู้เช่าต้องดูแลรักษาห้องและจ่ายค่าใช้จ่ายตามที่ระบุ

เคล็ดลับ: หากผู้ให้เช่าพยายามโยนภาระทุกอย่างให้ผู้เช่า ควรระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่าผู้ให้เช่าจะรับผิดชอบส่วนใด

5. ตรวจสอบการยกเลิกสัญญา

กฎหมายว่าด้วยสัญญาเช่าอนุญาตให้ผู้เช่ามีสิทธิยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด หากมีเหตุจำเป็น เช่น:

  • ปัญหาโครงสร้างห้องพักที่ส่งผลต่อการอยู่อาศัย
  • ผู้ให้เช่าไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญา

สิ่งที่ควรตรวจสอบ:

  • ระยะเวลาที่ต้องแจ้งล่วงหน้า
  • ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณียกเลิกสัญญา

เคล็ดลับ: หากพบเงื่อนไขการแจ้งล่วงหน้าที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น แจ้งก่อน 3 เดือน ควรเจรจาเพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม

6. ใช้แบบฟอร์มสัญญาเช่าหอพัก/ห้องพักที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย

ปัจจุบันมี แบบฟอร์มตัวอย่างสัญญาเช่าหอพักหรือตัวอย่างสัญญาเช่าห้องพักที่ดีหรือตรงตามกฎหมายมากมาย ผู้เข้าพักสามารถค้นหาเอกสารดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสอบว่าสัญญาที่เราได้รับมีความครบถ้วนและถูกต้องหรือไม่

เคล็ดลับ: หากผู้ให้เช่าใช้สัญญาที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ครอบคลุมสิทธิขั้นพื้นฐาน ให้สอบถามและขอแก้ไขก่อนเซ็น

7. ขอคำปรึกษาในกรณีมีข้อสงสัย

ท้ายสุด หากคุณไม่มั่นใจว่าสัญญาเช่านั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่  Hongpak ขอแนะนำให้คุณขอคำปรึกษาจาก

  • หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค
  • ทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย 
  • ตลอดจนผู้ให้เช่าหรือผู้สร้างสัญญาถึงข้อกำหนดต่างๆ ที่เราอาจสงสัยหรือมีคำถาม

เคล็ดลับ: การศึกษาหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอาจช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาว

เคล็ดลับเพิ่มความมั่นใจก่อนเซ็นสัญญาเช่าหอ

การเซ็นสัญญาเช่าหออย่างปลอดภัยต้องอาศัยการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ดังนี้

1. อ่านสัญญาเช่าห้องให้ครบถ้วน

ตรวจสอบทุกข้อความในสัญญาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจรายละเอียดทั้งหมด รวมถึง

  • ค่าเช่า ค่ามัดจำ และวันที่ต้องชำระเงิน
  • เงื่อนไขการคืนค่ามัดจำ เช่น หากไม่มีความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายค้างชำระ
  • สิทธิในการใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ลานจอดรถหรือห้องซักผ้า

2. ตรวจสอบข้อกำหนดที่ไม่ชอบมาพากล

ระวังข้อกำหนดที่อาจไม่เป็นธรรม เช่น

  • การกำหนดค่าปรับสูงเกินไปในกรณีคืนห้องล่าช้า
  • เงื่อนไขที่โยนความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ผู้เช่า

3. เก็บสำเนาสัญญา

หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว อย่าลืมเก็บสำเนาสัญญาไว้ทั้งในรูปแบบกระดาษและไฟล์ดิจิทัล เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีเกิดข้อพิพาท หรือเพื่อตรวจสอบรายละเอียดที่อาจถูกลืม

4. หลีกเลี่ยงการจ่ายเงินก่อนเซ็นสัญญา

อย่าชำระค่าเช่าหรือค่ามัดจำใด ๆ จนกว่าสัญญาจะได้รับการเซ็นและตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย หากต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ควรเก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เสมอ

การเซ็นสัญญาเช่าหอเป็นกระบวนการสำคัญในการเข้าพัก การศึกษาสัญญาเช่าอย่างละเอียดและเรียนรู้แนวทางที่เหมาะสมจึงถือเป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่ขาดไม่ได้ในฐานะผู้เช่า การมีความเข้าใจ ความรู้ที่ดีช่วยหล่นระยะเวลาในการเจรจาและความเสี่ยงในระยะยาว ตลอดจนช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจว่าเราอยู่ในสัญญาที่เหมาะสม

Hongpak ศูนย์รวมหอพัก ห้องเช่าทั่วประเทศ แบบรายเดือนและรายวัน   

Hongpak คือ แพลตฟอร์มประกาศเช่าที่พักหลากหลายรูปแบบทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักรายเดือน อพาร์ทเม้นท์ หอพัก บ้านเช่า คอนโด หรือรีสอร์ท มีหลายระดับราคาให้เลือกตามความต้องการ ค้นหาง่ายด้วยตัวกรองตามสถานีรถไฟฟ้า สถาบันการศึกษา จังหวัด หรือดูจากแผนที่ เพื่อให้คุณพบที่พักในฝันได้อย่างรวดเร็วและตรงใจ และตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการประกาศเช่าอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ 

ติดต่อสอบถาม/แจ้งปัญหา

เว็บไซต์: https://www.hongpak.in.th/contactus/

อีเมล: hongpakth@gmail.com

โทร.: 086-9129728